Hotline: (+66)98 764 7222

โรค HPV คืออะไร รู้จักและป้องกันก่อนสายเกินไป ภัยเงียบคุกคามผู้หญิง

ภัยเงียบที่คุกคามชีวิตผู้หญิงอย่างเงียบ ๆ นี้ มีต้นเหตุมาจาก “เชื้อ HPV” ไวรัสที่สามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ และหากไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น มะเร็งปากมดลูก แต่ปัจจุบัน โรค HPV สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน และการตรวจสุขภาพเป็นประจำ ดังนั้นอย่ารอให้สายเกินไป มาทำความรู้จักกับโรค HPV และวิธีป้องกันไปพร้อมกัน

ไวรัส HPV คืออะไร โรคติดต่อทางเพศที่ต้องระวัง

เชื้อไวรัส HPV คืออะไร? ไวรัส HPV (Human Papillomavirus) หรือเชื้อแปปิโลมา คือ ไวรัส DNA ที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อเนื้อเยื่อบุผิว ซึ่งเป็นชั้นเซลล์ที่ปกคลุมอวัยวะต่าง ๆ เช่น ผิวหนัง ทางเดินอาหาร และอวัยวะสืบพันธุ์ การติดเชื้อ HPV มักเกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับเชื้อผ่านทางเพศสัมพันธ์ โดยเชื้อ HPV มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงในการก่อให้เกิดมะเร็ง ได้แก่ สายพันธุ์ 16 และ 18 ซึ่งมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงเซลล์ปกติให้กลายเป็นเซลล์มะเร็งได้

ผู้ชายสามารถติดเชื้อไวรัส HPV ได้หรือไม่

เชื้อ HPV ไม่ได้จำกัดแค่ผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายก็มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้เช่นกัน ซึ่งการติดเชื้อ HPV อาจนำไปสู่โรคที่ร้ายแรงได้ เช่น มะเร็งทวารหนัก มะเร็งปาก และมะเร็งลำคอ นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เกิดหูดหงอนไก่ ซึ่งเป็นตุ่มเนื้อขนาดเล็กที่บริเวณอวัยวะเพศและบริเวณรอบ ๆ โดยเฉพาะกลุ่มชายรักชายจะมีความเสี่ยงสูงกว่า เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักบ่อยครั้ง ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพศใด การป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ HPV จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

สาเหตุเกิดจากอะไร สามารถติดเชื้อได้อย่างไร

ไวรัส HPV มาจากไหน? การติดเชื้อ HPV เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือปาก 

นอกจากนี้ เชื้อ HPV ยังสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสผิวหนังที่มีรอยแผล หรือแม้แต่การใช้สิ่งของร่วมกันกับผู้ติดเชื้อ ที่น่ากลัวคือ ผู้ติดเชื้อ HPV มักไม่มีอาการในระยะแรก ทำให้หลายคนไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อจนกว่าโรคจะลุกลาม

ผู้ติดเชื้อไวรัส HPV จะมีอาการเป็นอย่างไร

หลายคนอาจสงสัยว่าเมื่อติดเชื้อไวรัส HPV แล้วจะมีอาการอย่างไร คำตอบคือ ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ติดเชื้อ HPV จะไม่มีอาการใด ๆ ให้เห็นชัดเจน เนื่องจากร่างกายสามารถกำจัดเชื้อได้เอง แต่ในบางรายอาจมีอาการแสดงออกมาในรูปแบบของ หูด ซึ่งมีหลายชนิดและลักษณะแตกต่างกันไป ดังนี้

  • หูดทั่วไป มักเป็นตุ่มเล็ก ๆ ที่พบได้ทั่วไปตามมือ นิ้ว ข้อศอก มีสีคล้ายเนื้อ หรืออาจเป็นสีขาว ชมพู หรือน้ำตาลอ่อน อาจทำให้รู้สึกเจ็บและผิวหนังบริเวณนั้นอาจมีเลือดออกง่าย
  • หูดแบนราบ เป็นตุ่มเล็ก ๆ ที่เรียบและแบน มีสีเข้มกว่าผิวหนังปกติเล็กน้อย พบได้ทั่วร่างกาย ทั้งในผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก
  • หูดบริเวณอวัยวะเพศ (หูดหงอนไก่) มีลักษณะเป็นติ่งเนื้อคล้ายดอกกะหล่ำ ซึ่งจะเกิดขึ้นตรงบริเวณอวัยวะเพศ หรือทวารหนัก มักทำให้รู้สึกคัน แต่ไม่เจ็บปวด
  • หูดบริเวณฝ่าเท้า เป็นตุ่มแข็งที่มักเกิดขึ้นบริเวณส้นเท้าหรือเนินปลายเท้า อาจทำให้รู้สึกเจ็บเวลาเดิน

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่ติดเชื้อ HPV จะมีหูด และแม้จะมีหูด ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นหูดที่อวัยวะเพศเสมอไป หูดบางชนิดอาจหายไปได้เอง แต่บางชนิดก็อาจต้องได้รับการรักษาจากแพทย์

ใครบ้างที่เสี่ยงติดเชื้อไวรัส HPV 

ไวรัส HPV เป็นเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายได้ง่าย โดยเฉพาะผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ผู้ที่มีพฤติกรรมหรืออยู่ในภาวะดังต่อไปนี้ จึงถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อ HPV

  • ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์หลายคน การเปลี่ยนคู่นอนบ่อยจะเพิ่มโอกาสในการสัมผัสกับเชื้อ HPV
  • วัยรุ่นและเยาวชน โดยเฉพาะกลุ่มวัยเจริญพันธุ์ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงเต็มที่ และอาจมีพฤติกรรมเสี่ยง
  • ผู้ที่มีแผลเปิด เชื้อ HPV สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านรอยแผลหรือรอยขีดข่วน
  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ติดเชื้อ HIV ผู้ใช้ยาภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยมะเร็ง หรือผู้ที่เพิ่งได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ
  • ผู้ที่สัมผัสกับหูดหรือสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ การสัมผัสโดยตรงกับหูดหรือสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ HPV โดยไม่ได้สวมถุงมือป้องกัน อาจทำให้ติดเชื้อได้
  • ผู้ที่ใช้สถานที่สาธารณะ การใช้สถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ห้องอาบน้ำสาธารณะ สระว่ายน้ำ หรืออุปกรณ์ออกกำลังกายร่วมกัน อาจทำให้สัมผัสกับเชื้อ HPV ได้

การตรวจหาเชื้อและไวรัส

ปัจจุบันมี HPV Self-Collected Test ชุดตรวจ HPV ด้วยตัวเองที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณผู้หญิงสามารถเก็บตัวอย่างเซลล์จากปากมดลูกได้อย่างสะดวกสบายที่บ้าน โดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล ชุดตรวจนี้ประกอบด้วยไม้เก็บตัวอย่างและชุดน้ำยาที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา (US-FDA) เพื่อความปลอดภัยและแม่นยำ โดยมีวิธีการตรวจดังนี้ 

  1. ใช้ไม้เก็บตัวอย่างสอดเข้าไปในช่องคลอดตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในคู่มือ
  2. นำไปใส่ในหลอดบรรจุน้ำยา จากนั้นส่งชุดตรวจไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อวิเคราะห์หาเชื้อ HPV รวมถึงเชื้อคลามัยเดียและนีสซีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม หากผลตรวจพบเชื้อ HPV คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการรักษาและติดตามผลต่อไป แพทย์จะประเมินความเสี่ยงและให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

วิธีการรักษา หากติดเชื้อ HPV 

การรักษาเชื้อ HPV จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรค โดยหลัก ๆ แล้ว การรักษาจะมุ่งเน้นไปที่การรักษาอาการและป้องกันไม่ให้โรคลุกลามไปมากกว่านี้

  • หากมีอาการเป็นหูด แพทย์อาจทำการรักษาโดยวิธีต่าง ๆ เช่น การใช้ยา การใช้เลเซอร์หรือการแช่แข็งเพื่อกำจัดหูด 
  • หากเชื้อ HPV ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่อาจนำไปสู่มะเร็ง แพทย์อาจแนะนำให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ พร้อมกับรักษาด้วยยาเพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติ
  • การผ่าตัด หากเซลล์ผิดปกติมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นมะเร็ง อาจต้องทำการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้องอกออก

วิธีป้องกันการติดเชื้อ HPV 

ไวรัส HPV คือสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูก แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะเรามีวิธีป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้หลายวิธี ดังนี้

  1. ฉีดวัคซีน HPV เด็กหญิงและเด็กชายอายุ 9-26 ปี ควรได้รับวัคซีน HPV เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกและหูด นอกจากนี้ แม้ว่าจะเคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ก็ยังสามารถฉีดวัคซีน HPV ได้ เพื่อเพิ่มการป้องกัน
  2. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
  • ผู้หญิง ควรตรวจคัดกรองโรคเป็นประจำตามที่แพทย์แนะนำ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอายุ 21-65 ปี
  • ผู้ชาย ควรตรวจสุขภาพหากมีอาการผิดปกติ เช่น หูดบริเวณอวัยวะเพศ
  1. ใช้ถุงยางอนามัย ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HPV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ทั้งนี้ควรมีคู่นอนเพียงคนเดียว หรือหากมีหลายคน ควรมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย
  2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสหูด หากพบหูด ควรหลีกเลี่ยงการเกาหรือแกะ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
  3. รักษาความสะอาด ล้างมือบ่อย ๆ และทำความสะอาดร่างกายให้สะอาดอยู่เสมอ
  4. หลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยง ควรสวมรองเท้าเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีความเสี่ยง เช่น สระว่ายน้ำสาธารณะ ห้องอาบน้ำรวม เพื่อป้องกันการสัมผัสเชื้อ HPV 

สรุป

HPV เป็นไวรัสที่สามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์และก่อให้เกิดโรคร้ายแรง โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูก แม้ว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อาจไม่มีอาการ แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน การใช้ถุงยางอนามัย และการตรวจสุขภาพเป็นประจำ ซึ่งกลุ่มเสี่ยงที่สำคัญคือวัยรุ่น ผู้มีเพศสัมพันธ์หลายคน และผู้มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ 

สำหรับผู้ที่ต้องการตรวจและรักษาอย่างครอบคลุม ขอแนะนำ Z by Zeniq  ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการตรวจและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่นี่มีบริการตรวจ HPV ที่แม่นยำ ให้คำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีวัคซีนป้องกัน HPV พร้อมให้บริการ Z by Zeniq จะช่วยดูแลสุขภาพของคุณอย่างครอบคลุมและเป็นมืออาชีพ