เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายของเราจะพบการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการลดลงของระดับฮอร์โมน ซึ่งเป็นกระบวนการธรรมชาติที่เกิดขึ้นในผู้ชายและผู้หญิง ฮอร์โมนที่ลดลงตามอายุสามารถส่งผลกระทบต่อพลังงาน อารมณ์ มวลกล้ามเนื้อ และสุขภาพโดยรวม
การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในผู้ชาย: การลดลงของเทสโทสเทอโรน
ในผู้ชาย ฮอร์โมนหลักที่ลดลงตามอายุคือ เทสโทสเทอโรน ซึ่งการลดลงนี้เริ่มต้นในช่วงวัย 30 ปี และจะลดลงอย่างช้าๆ ตามอายุ การศึกษาเชิงลึกหลายชิ้น เช่น Baltimore Longitudinal Study of Aging, Framingham Heart Study, และ European Male Aging Study (EMAS) พบว่าเทสโทสเทอโรนลดลงเฉลี่ยปีละ 1-2% หลังจากอายุ 30 ปี
ในผู้ชายที่มีอายุ 20-30 ปี ระดับเทสโทสเทอโรนจะอยู่ระหว่าง 500-800 ng/dL แต่เมื่อเข้าสู่วัย 70 หรือ 80 ปี ระดับเทสโทสเทอโรนอาจลดลงต่ำกว่า 300 ng/dL การลดลงนี้จะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นในผู้ชายที่มีน้ำหนักตัวเกินหรือมีโรคประจำตัว
สิ่งสำคัญคือ เทสโทสเทอโรนที่มีอยู่ในรูปแบบฟรี (free testosterone) หรือ ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่สามารถใช้งานได้ จะลดลงมากกว่า เนื่องจากผู้ชายที่มีอายุมากมักจะมีระดับ sex-hormone binding globulin (SHBG) สูงขึ้น ซึ่งจะลดปริมาณเทสโทสเทอโรนฟรีในร่างกาย
เมื่อระดับเทสโทสเทอโรนลดลง ผู้ชายอาจประสบปัญหาหลายอย่าง เช่น มวลกล้ามเนื้อลดลง, ความต้องการทางเพศลดลง, เหนื่อยล้า, และอารมณ์แปรปรวน แต่การลดลงของเทสโทสเทอโรนไม่ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนกับการหมดประจำเดือนในผู้หญิง และด้วยเหตุนี้คำว่า “แอนโดรโพส” (Andropause) จึงอาจไม่ถูกต้องนัก
การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในผู้หญิง: การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือน
ในผู้หญิง การลดลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะ เอสโตรเจน และ โปรเจสเตอโรน จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ ภาวะหมดประจำเดือน ซึ่งมักเริ่มในช่วงปลายวัย 40 หรือช่วงต้น 50 ปี การลดลงของฮอร์โมนนี้อาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ร้อนวูบวาบ, เหงื่อออกกลางคืน, อารมณ์แปรปรวน, มวลกระดูกลดลง
ต่างจากผู้ชายที่มีการลดลงของฮอร์โมนอย่างค่อยเป็นค่อยไป ผู้หญิงจะประสบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตได้อย่างมาก
บทบาทของฮอร์โมนในการแก่ตัวลง
ทั้งเทสโทสเตอโรนและเอสโตรเจนมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพของระบบต่างๆ ในร่างกาย:
- สุขภาพกระดูก: ฮอร์โมนช่วยรักษาความหนาแน่นของกระดูก เมื่อระดับฮอร์โมนลดลง ความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุนจะสูงขึ้นทั้งในผู้ชายและผู้หญิง
- มวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง: เมื่อระดับฮอร์โมนต่ำลง จะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและมีความเสี่ยงต่อการเกิดอ่อนแรง ดังนั้นการออกกำลังกายและฝึกความแข็งแรงจึงสำคัญมากขึ้นเมื่อเรามีอายุ
- การทำงานทางเพศ: การลดลงของฮอร์โมนทำให้ความต้องการทางเพศลดลงและอาจเกิดปัญหาการทำงานทางเพศ ซึ่งอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์และความสุขภาพโดยรวม
การจัดการกับการลดลงของฮอร์โมน
หากมีอาการที่รบกวนชีวิตประจำวันมาก การบำบัดด้วยฮอร์โมน (Hormone Replacement Therapy หรือ HRT) อาจเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่ต้องระมัดระวัง เนื่องจากมีความเสี่ยงบางประการ:
- สำหรับผู้ชายที่มีอาการขาดเทสโทสเตอโรนและมีระดับฮอร์โมนต่ำ การบำบัดด้วยเทสโทสเตอโรนอาจช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ความต้องการทางเพศ และการทำงานทางร่างกาย
- สำหรับผู้หญิง การบำบัดด้วยฮอร์โมนอาจช่วยบรรเทาอาการวัยหมดประจำเดือน แต่ไม่แนะนำให้ใช้ในระยะยาว เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านม โรคหัวใจ และสโตรก
สรุป
การลดลงของฮอร์โมนเป็นกระบวนการตามธรรมชาติของร่างกายเมื่ออายุมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้คุณภาพชีวิตลดลงไปด้วย หากเรารักษาสุขภาพด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่ดี และมีการจัดการความเครียดที่ดี ก็สามารถลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนได้อย่างมาก หากคุณมีอาการที่รบกวนชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาว่าการบำบัดด้วยฮอร์โมนหรือการรักษาทางเลือกอื่นๆ เหมาะสมกับคุณหรือไม่ การเข้าใจถึงการลดลงของฮอร์โมนอย่างลึกซึ้ง จะช่วยให้คุณตัดสินใจเรื่องสุขภาพได้อย่างมั่นใจและมีข้อมูลมากขึ้นในทุกช่วงวัยของชีวิต