ตรวจไวรัสตับอักเสบซี
การตรวจไวรัสตับอักเสบซี (Hepatitis C Test) คือการตรวจหาการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี (HCV) ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานของตับและอาจทำให้เกิดโรคตับเรื้อรังหากไม่ได้รับการรักษา การตรวจนี้จะใช้การทดสอบเลือดหลายประเภทเพื่อหาภูมิต้านทานต่อไวรัส ตรวจหาตัวไวรัสเอง หรือระบุสายพันธุ์เฉพาะของไวรัสหากมีการติดเชื้อในขณะนั้นอยู่
ประเภทของการตรวจไวรัสตับอักเสบซี
1. การตรวจหาภูมิต้านทานต่อไวรัสตับอักเสบซี (Anti-HCV Test)
วัตถุประสงค์: ตรวจหาภูมิต้านทานต่อไวรัสตับอักเสบซี (HCV) ซึ่งบ่งบอกถึงการเคยติดเชื้อไวรัสในอดีต มักใช้เพื่อตรวจคัดกรองเบื้องต้นสำหรับไวรัสตับอักเสบซี
ผลตรวจ: ผลบวกหมายความว่าผู้ตรวจเคยสัมผัสไวรัส HCV แต่จำเป็นต้องทำการตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่ามีการติดเชื้อที่กำลังดำเนินอยู่หรือไม่
2. การตรวจ HCV RNA (PCR Test)
วัตถุประสงค์: ตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัส HCV (RNA) เพื่อยืนยันการติดเชื้อที่กำลังดำเนินอยู่ ใช้ตรวจเมื่อผลการตรวจภูมิต้านทานเป็นบวก เพื่อยืนยันว่าไวรัสยังคงมีอยู่และกำลังเพิ่มจำนวน
ผลตรวจ: ถ้าพบไวรัส HCV ในเลือดหมายถึงการติดเชื้อที่กำลังดำเนินอยู่ ส่วนผลลบอาจ – rmove thisหมายความว่าไวรัสไม่พบในร่างกายแล้ว
3. การตรวจสายพันธุ์ของไวรัส HCV (Genotype Test)
วัตถุประสงค์: เพื่อระบุสายพันธุ์ (genotype) ของไวรัส ช่วยในการวางแผนการรักษา เนื่องจากสายพันธุ์ต่าง ๆ อาจตอบสนองต่อการรักษาที่แตกต่างกัน
ผลตรวจ: ระบุสายพันธุ์ของไวรัส ซึ่งมีความสำคัญในการวางแผนการรักษา
4. การตรวจการทำงานของตับและการตรวจภาพ (อัลตราซาวนด์, FibroScan)
วัตถุประสงค์: ประเมินสุขภาพตับและตรวจหาความเสียหายจากการติดเชื้อ ใช้บ่อยในผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี โดยเฉพาะหากมีการติดเชื้อไวรัสมานาน
ผลตรวจ: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของตับและการเกิดพังผืดในตับ
ขั้นตอนการตรวจไวรัสตับอักเสบซี
การเตรียมตัว
- โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องเตรียมตัว เช่น การอดอาหาร แต่หากมีการตรวจอื่นร่วมด้วย แพทย์อาจให้คำแนะนำเพิ่มเติม
- ควรแจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือรับประทานยา เพราะอาจมีผลต่อกระบวนการตรวจ
การเก็บตัวอย่างเลือด
- การตรวจนี้จะใช้การเจาะเลือดจากหลอดเลือดดำบริเวณแขน
- บุคลากรทางการแพทย์จะทำการทำความสะอาดบริเวณที่จะเจาะเลือดและเก็บตัวอย่างเลือดส่งไปยังห้องปฏิบัติการ
หลังการเก็บตัวอย่าง
- หลังจากเก็บตัวอย่างเลือดแล้ว สามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้ทันที โดยอาจรู้สึกไม่สบายเล็กน้อยหรือมีรอยช้ำบริเวณที่เจาะเลือด
- ผลการตรวจภูมิต้านทานอาจทราบภายใน 1-2 วัน 1-2 วัน ?? within 30 minutes ส่วนการตรวจ PCR และการตรวจสายพันธุ์อาจใช้เวลานานขึ้น
การแปลผลการตรวจ
- ผลตรวจภูมิต้านทานบวก: หมายถึงการเคยสัมผัสไวรัส แต่ต้องมีการตรวจเพิ่มเติม (ปกติจะเป็นการตรวจ PCR) เพื่อยืนยันว่ามีการติดเชื้อที่กำลังดำเนินอยู่
- ผลตรวจ PCR บวก: บ่งชี้ถึงการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีที่กำลังดำเนินอยู่
- ผลตรวจสายพันธุ์บอกสายพันธุ์ของไวรัส: ซึ่งสำคัญในการวางแผนการรักษา
การติดตามผลการรักษา
หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไวรัสตับอักเสบซี แพทย์มักแนะนำให้ตรวจติดตามผลเพื่อประเมินสถานะการติดเชื้อและสุขภาพของตับ ตัวเลือกการรักษาในประเทศไทยมีประสิทธิภาพสูง โดยยาต้านไวรัสสามารถใช้งานได้ง่าย ใช้ระยะเวลาในการรักษาสั้น? การรักษาใช้เวลาประมาณ 12 อาทิตย์ และมีอัตราการรักษาหายที่สูงถ้าได้รับการกูแลที่ได้มาตรฐาน
การเข้าถึงและค่าใช้จ่าย
ZBy Zeniq ให้บริการการตรวจไวรัสตับอักเสบซีในช่วงราคาประมาณ 500-1000 บาท และสามารถทราบผลได้ภายใน 30 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม
สำหรับผู้ที่ตรวจพบการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ควรได้รับการดูแลติดตามผล ซึ่งมักจะรวมถึงการตรวจการทำงานของตับ และการติดตามค่าไวรัสในเลือด เพื่อประเมินผลการรักษา ZBy Zeniq มีบริการดูแลครบวงจรสำหรับผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซี