ในปัจจุบัน การตรวจคัดกรองการติดเชื้อ HIV มีความแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าสมัยก่อนมาก บทความนี้จะอธิบายถึงประเภทต่าง ๆ ของการตรวจคัดกรองการติดเชื้อ HIV ระยะเวลารอผล และ เหตุผลที่การตรวจ HIV PCR ถือเป็นการตรวจที่ไวที่สุดในปัจจุบัน
ความสำคัญของการตรวจคัดกรองการติดเชื้อ HIV
การตรวจพบการติดเชื้อ HIV ตั้งแต่เนิ่น ๆ สามารถช่วยให้ผู้ติดเชื้อ HIV เริ่มการรักษาด้วยยาต้านไวรัส (ART) ได้เร็ว ทำให้ช่วยรักษาการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และทำให้ปริมาณไวรัสในร่างกายลดลง จนสามารถตรวจไม่เจอเชื้อไวรัส HIV ในเลือด การตรวจคัดกรองการติดเชื้อ HIV ยังช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ HIV ไปยังผู้อื่นได้ด้วย
การตรวจหาเชื้อ HIV: ความแตกต่างของแต่ละ Generation
การตรวจหาเชื้อ HIV ในปัจจุบันมีหลาย Generation โดยที่แต่ละ Generation จะมีความแม่นยำ และ ระยะเวลารอผลที่แตกต่างกัน ระยะ “window period” คือ ช่วงเวลาระหว่างการได้รับเชื้อ HIV ในร่างกาย จนถึงช่วงเวลาที่การตรวจสามารถตรวจพบเชื้อ
1st Generation Tests: การตรวจแอนติบอดีเท่านั้น
- สิ่งที่ตรวจพบ: แอนติบอดีของเชื้อ HIV
- window period: 8 – 12 สัปดาห์หลังจากได้รับเชื้อ
- รายละเอียด: การตรวจ 1st Generation นี้ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเป็นครั้งแรก และสามารถตรวจพบแอนติบอดีที่ร่างกายผลิตขึ้น เพื่อตอบสนองต่อการติดเชื้อ HIV ได้เท่านั้น เนื่องจากแอนติบอดีของร่างกายต้องใช้เวลาในการพัฒนาค่อนข้างนาน ทำให้ การทดสอบนี้จึงมีระยะเวลาของ window period ที่นาน และอาจตรวจไม่พบการติดเชื้อ HIV ในระยะแรก
2nd Generation Tests: การตรวจแอนติบอดีที่ดีขึ้น
- สิ่งที่ตรวจพบ: แอนติบอดี HIV
- window period: 4 – 6 สัปดาห์หลังจากได้รับเชื้อ
- รายละเอียด: สำหรับการตรวจ 2nd Generation ได้รับการพัฒนาให้มีความไวมากขึ้น เพื่อทำให้สามารถตรวจพบแอนติบอดีที่ร่างกายผลิตขึ้นได้เร็วกว่าการตรวจแบบ 1st Generation ส่งผลให้ระยะ window period สั้นลง และมีความแม่นยำมากขึ้น
3rd Generation Tests: การตรวจแอนติบอดีขั้นสูง
- สิ่งที่ตรวจพบ: แอนติบอดี HIV
- window period: 3 – 4 สัปดาห์หลังจากได้รับเชื้อ
- รายละเอียด: การตรวจแบบ 3rd Generation ได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถตรวจพบแอนติบอดีที่ร่างกายผลิตขึ้นได้เร็วมากยิ่งขึ้น และแม่นยำขึ้นกว่าแบบ 2nd Generation ส่งผลให้ระยะ window period สั้นลง และมีความแม่นยำมากขึ้น
4th Generation Tests: การตรวจแอนติบอดี/แอนติเจนแบบผสมผสาน
- สิ่งที่ตรวจพบ: แอนติบอดี HIV และแอนติเจน p24
- window period: 2 สัปดาห์หลังจากได้รับเชื้อ
- รายละเอียด: การตรวจแบบ 4th Generation นี้ ได้รับการพัฒนา ทำให้สามารถตรวจพบได้ทั้งแอนติบอดี และ แอนติเจน p24 ซึ่งเป็นโปรตีนที่ผลิตขึ้นในระยะแรกของการติดเชื้อ HIV การตรวจแบบผสมผสานนี้ ทำให้ระยะ window period สั้นลงและทำให้การตรวจมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับการตรวจพบการติดเชื้อ HIV ในระยะแรก
ที่ Z by Zeniq เราใช้การตรวจชนิด 4th Generation เป็นมาตรฐาน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการตรวจคัดกรองการติดเชื้อ HIV ที่มีความแม่นยำ และน่าเชื่อถือสูง เมื่อทำการตรวจในช่วงเวลาที่เหมาะสมหลังการสัมผัสเชื้อ การทดสอบนี้ให้ผลที่แม่นยำถึง 99% หากต้องการรับการตรวจคัดกรองการติดเชื้อ HIV สามารถนัดหมายเข้ามาพบแพทย์ เพื่อเข้ารับคำปรึกษาที่เหมาะสมได้เลย