ตรวจหาซิฟิลิส
การตรวจหาซิฟิลิส (Syphilis Test) ใช้ตรวจหาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย Treponema pallidum ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคซิฟิลิส โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STI) การตรวจนี้มักจะใช้การทดสอบเลือดเพื่อหาภูมิต้านทานหรือการตรวจหาแบคทีเรียเอง ซิฟิลิสสามารถดำเนินไปในหลายระยะ (ระยะเริ่มต้น, ระยะที่สอง, ระยะซ่อนเร้น, และระยะที่สาม) การตรวจพบและการรักษาแต่เนิ่น ๆ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนระยะยาว
ประเภทของการตรวจซิฟิลิส
- การทดสอบ Non-treponemal (การตรวจคัดกรอง)
- Rapid Plasma Reagin (RPR) Test และ Venereal Disease Research Laboratory (VDRL) Test
- วัตถุประสงค์: ตรวจหาภูมิต้านทานที่ผลิตขึ้นจากการติดเชื้อซิฟิลิส
- การใช้งาน: เป็นการทดสอบเบื้องต้น ใช้ได้รวดเร็วและราคาประหยัด แต่บางครั้งอาจให้ผลบวกเท็จ ดังนั้นการตรวจผลบวกมักจะต้องยืนยันด้วยการทดสอบชนิด treponemal
- ผลการตรวจ: ผลบวกหมายความว่าอาจมีการติดเชื้อในปัจจุบันหรือในอดีต แต่จำเป็นต้องทำการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการติดเชื้อ
- Rapid Plasma Reagin (RPR) Test และ Venereal Disease Research Laboratory (VDRL) Test
- การทดสอบ Treponemal (การทดสอบยืนยัน)
- Fluorescent Treponemal Antibody Absorption (FTA-ABS) และ Treponema Pallidum Particle Agglutination (TPPA)
- วัตถุประสงค์: ตรวจหาภูมิต้านทานที่มุ่งเป้าไปที่แบคทีเรีย Treponema pallidum
- การใช้งาน: ใช้เพื่อยืนยันผลบวกจากการทดสอบ non-treponemal และแยกแยะซิฟิลิสจากการติดเชื้ออื่น ๆ
- ผลการตรวจ: ผลบวกยืนยันการติดเชื้อซิฟิลิส (ทั้งในปัจจุบันหรือในอดีต) เพราะภูมิต้านทานมักจะคงอยู่แม้หลังจากรักษาหายแล้ว
- Fluorescent Treponemal Antibody Absorption (FTA-ABS) และ Treponema Pallidum Particle Agglutination (TPPA)
- การทดสอบซิฟิลิสแบบรวดเร็ว
- วัตถุประสงค์: ตรวจหาภูมิต้านทานต่อซิฟิลิสได้อย่างรวดเร็ว โดยมักจะทำการทดสอบจากเลือดที่เจาะที่ปลายนิ้ว
- การใช้งาน: ใช้ในคลินิกบางแห่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลหรือเพื่อการคัดกรองอย่างรวดเร็ว
- ผลการตรวจ: ผลบวกมักจะต้องการการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยัน
กระบวนการตรวจซิฟิลิส
- การเตรียมตัว: ปกติไม่จำเป็นต้องเตรียมตัว เช่น การอดอาหาร แต่ควรแจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือกำลังใช้ยาบางชนิด เพราะอาจมีผลต่อผลการทดสอบ
- การเก็บตัวอย่างเลือด: การตรวจส่วนใหญ่ต้องใช้ตัวอย่างเลือดซึ่งจะเจาะเลือดจากเส้นเลือดที่แขน หรือในกรณีการทดสอบแบบรวดเร็ว จะเก็บเลือดจากปลายนิ้ว หากมีแผลหรือรอยโรค (เช่น บริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปาก) แพทย์อาจเก็บสารคัดหลั่งจากพื้นที่เหล่านั้นเพื่อตรวจ
- หลังการเก็บตัวอย่าง: หลังจากเก็บตัวอย่างเลือดแล้ว ตัวอย่างจะถูกส่งไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อทำการทดสอบ กระบวนการนี้จะใช้เวลารวดเร็วและผู้ตรวจสามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้ทันที อาจมีอาการเจ็บเล็กน้อยที่บริเวณที่เจาะเลือด
ระยะเวลาการทราบผล
- การทดสอบคัดกรอง (RPR, VDRL): มักจะทราบผลในเวลาไม่กี่ชั่วโมงถึงสองวัน
- การทดสอบยืนยัน (FTA-ABS, TPPA): มักจะใช้เวลานานกว่า หลายวันถึงหนึ่งสัปดาห์
- การทดสอบแบบรวดเร็ว: สามารถทราบผลภายใน 15-20 นาที
การตีความผลการตรวจ
- ผลบวกจากการทดสอบ non-treponemal (เช่น RPR, VDRL): หมายความว่าอาจมีการติดเชื้อซิฟิลิส จำเป็นต้องตรวจยืนยัน (FTA-ABS หรือ TPPA) เพื่อยืนยันการติดเชื้อ
- ผลบวกจากการทดสอบ Treponemal (เช่น FTA-ABS, TPPA): ยืนยันว่าผู้ตรวจติดเชื้อซิฟิลิส แม้ว่าจะได้รับการรักษาไปแล้วในอดีต
- ผลลบ: หมายความว่าไม่มีการติดเชื้อในปัจจุบันหรือในอดีต แต่หากอยู่ในระยะเริ่มต้นของซิฟิลิส (เช่น ระยะเริ่มต้น) ผลการทดสอบอาจไม่สามารถตรวจพบการติดเชื้อได้
การติดตามและการรักษา
หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซิฟิลิส การดูแลติดตามผลเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเฝ้าระวังการตอบสนองต่อการรักษา โดยเฉพาะในกรณีที่มีการติดเชื้อในระยะรุนแรง
การรักษามักจะใช้ยาปฏิชีวนะ (โดยทั่วไปคือเพนิซิลิน) และการทดสอบติดตามผลเพื่อให้แน่ใจว่าการติดเชื้อได้รับการรักษาหายแล้ว การวินิจฉัยและการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้ซิฟิลิสทำให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น ความเสียหายของอวัยวะ ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท และการแพร่กระจายไปยังผู้อื่น
สำหรับผู้ที่ผลตรวจเป็นบวก การดูแลติดตามผลเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งมักรวมถึงการตรวจการทำงานของตับ การตรวจอัลตราซาวด์ หรือการตรวจ FibroScan เพื่อติดตามสุขภาพตับ ZByZeniq มีบริการรักษาครบวงจรสำหรับผู้ป่วยซิฟิลิสที่ผลตรวจเป็นบวก
การเข้าถึงและค่าใช้จ่าย
ZBy Zeniq มีการให้บริการตรวจซิฟิลิสในราคาอยู่ในช่วงระหว่าง 500-1000 บาท และผลการตรวจสามารถทราบได้ภายใน 30 นาที