Hotline: 098 (764) 7222

การตรวจหาซิฟิลิส

ตรวจ Syphilis

ตรวจหาซิฟิลิส

การตรวจหาซิฟิลิส (Syphilis Test) ใช้ตรวจหาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย Treponema pallidum ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคซิฟิลิส โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STI) การตรวจนี้มักจะใช้การทดสอบเลือดเพื่อหาภูมิต้านทานหรือการตรวจหาแบคทีเรียเอง ซิฟิลิสสามารถดำเนินไปในหลายระยะ (ระยะเริ่มต้น, ระยะที่สอง, ระยะซ่อนเร้น, และระยะที่สาม) การตรวจพบและการรักษาแต่เนิ่น ๆ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนระยะยาว

ประเภทของการตรวจซิฟิลิส

  1. การทดสอบ Non-treponemal (การตรวจคัดกรอง)
    • Rapid Plasma Reagin (RPR) Test และ Venereal Disease Research Laboratory (VDRL) Test
      • วัตถุประสงค์: ตรวจหาภูมิต้านทานที่ผลิตขึ้นจากการติดเชื้อซิฟิลิส
      • การใช้งาน: เป็นการทดสอบเบื้องต้น ใช้ได้รวดเร็วและราคาประหยัด แต่บางครั้งอาจให้ผลบวกเท็จ ดังนั้นการตรวจผลบวกมักจะต้องยืนยันด้วยการทดสอบชนิด treponemal
      • ผลการตรวจ: ผลบวกหมายความว่าอาจมีการติดเชื้อในปัจจุบันหรือในอดีต แต่จำเป็นต้องทำการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการติดเชื้อ
  2. การทดสอบ Treponemal (การทดสอบยืนยัน)
    • Fluorescent Treponemal Antibody Absorption (FTA-ABS) และ Treponema Pallidum Particle Agglutination (TPPA)
      • วัตถุประสงค์: ตรวจหาภูมิต้านทานที่มุ่งเป้าไปที่แบคทีเรีย Treponema pallidum
      • การใช้งาน: ใช้เพื่อยืนยันผลบวกจากการทดสอบ non-treponemal และแยกแยะซิฟิลิสจากการติดเชื้ออื่น ๆ
      • ผลการตรวจ: ผลบวกยืนยันการติดเชื้อซิฟิลิส (ทั้งในปัจจุบันหรือในอดีต) เพราะภูมิต้านทานมักจะคงอยู่แม้หลังจากรักษาหายแล้ว
  3. การทดสอบซิฟิลิสแบบรวดเร็ว
    • วัตถุประสงค์: ตรวจหาภูมิต้านทานต่อซิฟิลิสได้อย่างรวดเร็ว โดยมักจะทำการทดสอบจากเลือดที่เจาะที่ปลายนิ้ว
    • การใช้งาน: ใช้ในคลินิกบางแห่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลหรือเพื่อการคัดกรองอย่างรวดเร็ว
    • ผลการตรวจ: ผลบวกมักจะต้องการการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยัน

กระบวนการตรวจซิฟิลิส

  1. การเตรียมตัว: ปกติไม่จำเป็นต้องเตรียมตัว เช่น การอดอาหาร แต่ควรแจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือกำลังใช้ยาบางชนิด เพราะอาจมีผลต่อผลการทดสอบ
  2. การเก็บตัวอย่างเลือด: การตรวจส่วนใหญ่ต้องใช้ตัวอย่างเลือดซึ่งจะเจาะเลือดจากเส้นเลือดที่แขน หรือในกรณีการทดสอบแบบรวดเร็ว จะเก็บเลือดจากปลายนิ้ว หากมีแผลหรือรอยโรค (เช่น บริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปาก) แพทย์อาจเก็บสารคัดหลั่งจากพื้นที่เหล่านั้นเพื่อตรวจ
  3. หลังการเก็บตัวอย่าง: หลังจากเก็บตัวอย่างเลือดแล้ว ตัวอย่างจะถูกส่งไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อทำการทดสอบ กระบวนการนี้จะใช้เวลารวดเร็วและผู้ตรวจสามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้ทันที อาจมีอาการเจ็บเล็กน้อยที่บริเวณที่เจาะเลือด

ระยะเวลาการทราบผล

  • การทดสอบคัดกรอง (RPR, VDRL): มักจะทราบผลในเวลาไม่กี่ชั่วโมงถึงสองวัน
  • การทดสอบยืนยัน (FTA-ABS, TPPA): มักจะใช้เวลานานกว่า หลายวันถึงหนึ่งสัปดาห์
  • การทดสอบแบบรวดเร็ว: สามารถทราบผลภายใน 15-20 นาที

การตีความผลการตรวจ

  • ผลบวกจากการทดสอบ non-treponemal (เช่น RPR, VDRL): หมายความว่าอาจมีการติดเชื้อซิฟิลิส จำเป็นต้องตรวจยืนยัน (FTA-ABS หรือ TPPA) เพื่อยืนยันการติดเชื้อ
  • ผลบวกจากการทดสอบ Treponemal (เช่น FTA-ABS, TPPA): ยืนยันว่าผู้ตรวจติดเชื้อซิฟิลิส แม้ว่าจะได้รับการรักษาไปแล้วในอดีต
  • ผลลบ: หมายความว่าไม่มีการติดเชื้อในปัจจุบันหรือในอดีต แต่หากอยู่ในระยะเริ่มต้นของซิฟิลิส (เช่น ระยะเริ่มต้น) ผลการทดสอบอาจไม่สามารถตรวจพบการติดเชื้อได้

การติดตามและการรักษา 

หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซิฟิลิส การดูแลติดตามผลเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเฝ้าระวังการตอบสนองต่อการรักษา โดยเฉพาะในกรณีที่มีการติดเชื้อในระยะรุนแรง 

การรักษามักจะใช้ยาปฏิชีวนะ (โดยทั่วไปคือเพนิซิลิน) และการทดสอบติดตามผลเพื่อให้แน่ใจว่าการติดเชื้อได้รับการรักษาหายแล้ว การวินิจฉัยและการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้ซิฟิลิสทำให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น ความเสียหายของอวัยวะ ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท และการแพร่กระจายไปยังผู้อื่น

สำหรับผู้ที่ผลตรวจเป็นบวก การดูแลติดตามผลเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งมักรวมถึงการตรวจการทำงานของตับ การตรวจอัลตราซาวด์ หรือการตรวจ FibroScan เพื่อติดตามสุขภาพตับ ZByZeniq มีบริการรักษาครบวงจรสำหรับผู้ป่วยซิฟิลิสที่ผลตรวจเป็นบวก

การเข้าถึงและค่าใช้จ่าย

ZBy Zeniq มีการให้บริการตรวจซิฟิลิสในราคาอยู่ในช่วงระหว่าง 500-1000 บาท และผลการตรวจสามารถทราบได้ภายใน 30 นาที